เทคนิคดูแลเส้นผมสวย สุขภาพดีได้ทุกสภาพเส้นผม

ด้วยสภาพร่างกายที่แตกต่างทำให้คนเรามีเส้นผมที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการดูแลเส้นผมตามประเภทของเส้นผมนั้นๆ มาทำความรู้จักกับเทคนิคดูแลเส้นผมที่ถูกต้องสำหรับผมแต่ละประเภท โดยเฉพาะการดูแลผมให้มีสุขภาพดีจะช่วยลดปัญหาผมแห้ง เปราะขาด หรือหลุดร่วงได้

ผมแห้งชี้ฟู
               สาเหตุที่ทำให้ผมแห้งชี้ฟู เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสระผมด้วยน้ำอุ่นเป็นประจำ , การใช้แชมพูที่มีความเป็นด่างสูง, การใช้ความร้อนสูงในการจัดแต่งทรงผม หรือการทำเคมี กัดสีผม ย้อมผม ยืดผม ดัดผมเป็นต้นทั้งหมดนี้ ล้วนก่อให้เกิดผมแห้งเสียได้ทั้งสิ้น ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ผมเปราะขาด ผมร่วง เป็นต้น

การดูแลผมแห้งชี้ฟู
- หลีกเลี่ยงการหวีผมแรงๆ 
- ไม่ควรสระผมบ่อย
- สระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน
- บำรุงหลังสระด้วยครีมนวด ทรีทเม้นท์เป็นประจำ
- ไม่ควรไว้ผมยาวเกินไป เพราะจะทำให้ก่อให้เกิดผมแตกปลายได้ง่าย 
- งดการใช้ความร้อนมากๆ
- งดการทำเคมีหรือการทำสีผมบ่อยๆ

ผมมัน
               สาเหตุหลักของผมมันเยิ้ม เหนียวเหนอะ มาจากต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากเกินไป และมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่เส้นผมสัมผัสอากาศที่มีความชื้นมาก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้มีปัญหารังแค ผมร่วงตามมา ทั้งยังทำให้สิ่งสกปรกติดเส้นผมได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

การดูแลผมมัน
- ควรสระผมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เกาะตามเส้นผม
- ใช้แชมพูสูตรผมมันโดยเฉพาะ
- ควรใช้ครีมนวดผม แค่บริเวณกลางผมถึงปลายผมเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงครีมนวดผม ทรีทเม้นท์  หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นและปริมาณน้ำมันมาก
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน



ผมแตกปลาย
               สาเหตุเกิดจาก ผมถูกทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัว และขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งการการใช้ความร้อน และสารเคมีต่างๆ ทำให้ผมมีสุขภาพที่อ่อนแอ เกล็ดผมหลุดร่วงและลอกออก แกนกลางของเส้นผมแยกออกจากกัน จนเกิดอาการผมแตกปลายในที่สุด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผมแห้งชี้ฟู ผมร่วงมากขึ้นกว่าปกติ

การดูแลผมแตกปลาย
- ใช้แชมพูสูตรเฉพาะผมแตกปลาย
- บำรุงหลังสระด้วยครีมนวด ทรีทเม้นท์เป็นประจำ
- งดการใช้ความร้อนมากๆ
- งดการทำเคมีหรือการทำสีผมบ่อยๆ
- ไม่ควรไว้ผมยาวเกินไป เพราะจะทำให้ผมแตกปลายได้ง่าย

ผมร่วง
               ผมร่วงสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุปัจจัย เช่น ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ความเครียดสะสม ขาดสารอาหารหรือแร่ธาตุ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดผมร่วงมากขึ้น จากปกติที่ผมจะร่วงในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 100 เส้นเท่านั้น

การดูแลไม่ให้ผมร่วง
- หวีผมอย่างเบามือ ไม่กระตุกเส้นผมแรง ๆ
- สระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน ลดผมร่วง
- นวดหนังศีรษะช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผม เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ให้การเจริญเติบโตของเส้นผมดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีและความร้อนกับหนังศีรษะ
- ทานอาหารบำรุงเส้นผม เช่น วิตามินบำรุงเส้นผมโดยตรง

เคล็ดลับลดผมร่วง ด้วยวิตามินผม Bevita
               วิตามินผม Bevita ตัวช่วยแก้เรื่องปัญหาผมร่วง ผมบาง จากภายในไม่ว่าจะเป็น ผมร่วงจากกรรมพันธุ์,  ผมร่วงจากความเครียด,  ผมร่วงจากการลดน้ำหนักฉับพลัน,  ผมร่วงจากขาดสารอาหารหรือแร่ธาตุ,  ผมร่วงหลังคลอด และจากสาเหตุ อื่น ๆ โดยวิตามินผม Bevita ได้รวบรวมสารสกัดจากธรรมชาตินำเข้าเกรดพรีเมี่ยมที่เส้นผมต้องการกว่า 22 ชนิด เช่น Horsetail: ช่วยกระตุ้นให้เส้นผมเจริญเติบโต, L-cysteine: ส่งผลต่อการงอกใหม่ของเส้นผม, Zinc: ยับยั้งการเปลี่ยนฮอร์โมนเป็น DHT, Tocotrienol / Tocopherol Complex: ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีทั่วไป 60 เท่า, Astaxanthin: แก้ผมร่วง ปกป้องเส้นผม ลดการอักเสบของหนังศีรษะ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้เป็นพื้นฐานของเซลล์สร้างรากผม ช่วยเสริมให้เซลล์ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยแก้เรื่องสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง ได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน 

- รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังมื้ออาหาร (แนะนำหลังอาหารมื้อเช้า)
- เป็นวิตามินไม่ใช่ยา ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
- ไม่มีผลต่อขนส่วนอื่น ๆ ตามร่างกาย
- คุณแม่หลังคลอดรับประทานได้
- ผู้สูงอายุรับประทานได้

โดยการรับประทานวิตามินเป็นเพียงการดูแลรักษาปัญหาผมเบื้องต้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล  ในทางที่ดีควรดูแลสุขภาพร่างกายเพิ่มเติม พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อประสิทธิภาพของวิตามินที่ดีมากยิ่งขึ้น

ใครที่กำลังมีปัญหาผมร่วงหรืออยากดูแลผมให้สุขภาพดี สามารถปรึกษาปัญหาผมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมฟรี!! ได้ที่ Line : @Bevita https://lin.ee/JLVMT5y