471 จำนวนผู้เข้าชม |
ไบโอติน เป็นวิตามินชนิดหนึ่งในตระกูลวิตามินบีหรือที่หลายคนรู้จักในชื่อวิตามิน H หรือวิตามิน B7 ซึ่งเปรียบเหมือนสารอาหารสำคัญในการดูแลและบำรุงเส้นผม เนื่องจากเส้นผมมีโปรตีนเคราตินเป็นองค์ประกอบหลัก ดังนั้นการทาน Biotin “ไบโอติน” จึงช่วยให้เส้นผมสวย สุขภาพดีและแข็งแรงอยู่เสมอ แต่ในทางกลับกันหากขาดไบโอตินจะมีอาการผมร่วง ไบโอตินมักพบได้ในแหล่งอาหาร ซึ่งมีไบโอตินจากสัตว์จะมีมากในเครื่องใน จากพืชพบในถั่วเมล็ดแห้งและพืชตระกูลถั่ว ขนมปังโฮลวีต และซีเรียล ผลไม้เปลือกแข็ง ทางที่ดีควรกินไบโอตินให้เหมาะสมในปริมาณที่ร่างกายต้องการ
คุณประโยชน์ของ Biotin สารอาหารที่เส้นผมขาดไม่ได้
- ฟื้นบำรุงผมขาดหลุดร่วง
สาเหตุของผมขาดหลุดร่วงมาจากกรรมพันธุ์ เพศ อายุ รวมทั้งมลภาวะต่างๆที่ต้องเจอในแต่ละวัน ส่งผลให้รากผมอ่อนแอ ต้องเสริมด้วยการบำรุง Biotin “ไบโอติน” ที่ช่วยในการฟื้นบำรุงเส้นผมให้มีวงจรการเจริญเติบโตได้ตามปกติ จึงทำให้ผมกลับมาหนาและแข็งแรง
- ช่วยบำรุงเส้นผมที่แตกปลาย
การใช้สารเคมีและความร้อนเป็นประจำ รวมถึงการใช้สเปรย์ในการจัดแต่งทรงผมก็เป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรงเช่นกัน เนื่องจากโครงสร้างของเคราตินที่เป็นโปรตีนบนเส้นผมจะถูกทำลาย ทำให้เกิดปัญหาผมแห้งเสีย ผมแตกปลายการเสริม Biotin “ไบโอติน” จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยทำให้โครงสร้างเคราตินที่ถูกทำลายกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
- บำรุงหนังศีรษะ ลดการเกิดรังแค
ร่างกายควรได้รับ Biotin “ไบโอติน” อย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพราะไบโอตินช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิว เมื่อขาดไบโอตินจะทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะอักเสบ หนังศีรษะลอกจนเกิดเป็นรังแคได้
- ชะลอการเกิดผมหงอก
เมื่อเริ่มมีอายุเยอะขึ้นเซลล์สร้างเม็ดสีในเส้นผมจะเริ่มฝ่อลงทำให้ประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้เกิดผมหงอก ส่วนผมหงอกที่เกิดก่อนวัยมักมีสาเหตุมาจากการขาด Biotin “ไบโอติน” ดังนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย Biotin “ไบโอติน” ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ จึงลดโอกาสและชะลอในการเกิดผมหงอกได้
ปริมาณ Biotin “ไบโอติน” ที่ควรได้รับในแต่ละวัน
ปริมาณการได้รับไบโอตินในแต่ละวันให้หมาะสมต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงอายุจะแตกต่างกันไป ดังนี้
เด็กเล็ก ควรได้รับไบโอติน 5-12 ไมโครกรัมต่อวัน
เด็กโต ควรได้รับไบโอติน 20-25 ไมโครกรัมต่อวัน
ผู้ใหญ่ ควรได้รับไบโอติน 30 ไมโครกรัมต่อวัน
ผู้หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรได้รับไบโอติน 30-35 ไมโครกรัมต่อวัน
อาหารที่มีส่วนประกอบของ Biotin “ไบโอติน” ช่วยบำรุงเส้นผม
ไข่แดง :ในไข่แดงมีไบโอตินสูงช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม
อัลมอนด์ :ในอัลมอนด์มีแร่ธาตุและวิตามินดีๆ มากมาย มีไบโอตินที่ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม มีวิตามินอีที่ช่วยให้ตัวไบโอตินทำงานได้ดีขึ้น
เห็ด : ในเห็ดนอกจากจะมีโปรตีนที่ดีต่อร่างกายแล้ว ยังมีไบโอตินที่ช่วยเรื่องเส้นผมด้วยโดยในเห็ดสดมักมีไบโอตินมากกว่าในเห็ดที่สุกแล้วดังนั้นการทานเห็ดจึงช่วยฟื้นฟูเส้นผมได้
ชีส : ในชีสอุดมไปด้วยโปรตีนและไบโอติน สามารถช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้ โดยเฉพาะเชดดาร์ชีสมีตัวไบโอตินสูงกว่าชีสชนิดอื่นๆ
เนื้อแดง :ในเนื้อแดงเป็นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุมากมาย ถือเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงและแก้ไขปัญหาเส้นผมได้
กระหล่ำดอก : ในกระหล่ำดอกมีไบโอตินสูงมาก ซึ่งมีปริมาณไบโอตินสูงกว่าในผักชนิดอื่นๆอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยในการย่อย นอกจะช่วยเรื่องเส้นผมแล้ว ก็ช่วยเรื่องสุขภาพได้อีกด้วย
ถั่วลิสง : อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและไบโอตินที่สูง เป็นแหล่งพลังงาน โซเดียมต่ำ ไขมันอิ่มตัวน้อย นอกจากจะดีต่อเส้นผมแล้วยังส่งผลดีต่อร่างกายอีกด้วย
ถั่วเหลือง : อุดมไปด้วยไบโอติน สารอาหารและวิตามินต่างๆ มากมาย ช่วยบำรุงเส้นผมและร่างกายให้แข็งแรง
ปลาแซลมอน : ปลาแซลมอนสามารถช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้ นอกจากจะมีโอมาก้า 3 ที่สูงแล้วก็ยังมีไบโอตินที่สูงด้วย ไม่ว่าจะกินทั้งแบบสด ต้ม ทอดหรือย่างก็ได้ประโยชน์เท่ากัน
กล้วย :ในกล้วยนอกจากจะมีไบโอตินสูงแล้ว ยังมีเส้นใยเพื่อช่วยในการย่อยอาหารอีกด้วย
ใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางอยู่ อย่าพึ่งนอยด์ไปอยากแนะนำให้เลือกทานอาหารที่มี Biotin “ไบโอติน” สูงๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเส้นผมลดปัญหาผมร่วง ผมบาง นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีไบโอตินแล้วทางที่ดีในการรักษาอาการผมร่วงผมบางให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดคือการทานวิตามิน Bevita เพราะได้รวบรวมสารสกัดจากธรรมชาติทั้ง 22 ชนิด ทั้ง Zinc, Biotin, Super Vitamin E, Horsetail และ Millet ที่เป็นสารอาหารสำคัญต่อเส้นผม เพียงทานวันละ 1 เม็ดก็ได้รับสารอาหารและแร่ธาตุเพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวันเป็นการบำรุงเส้นผมแบบมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น